เทศกาล “ลอยกระทง” ประจำปี 2564 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันสร้างสีสันปลุกบรรยากาศการท่องเที่ยว เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งกระตุ้นการใช้จ่ายแม้ภาพรวมอาจยังไม่ครึกครื้นเท่าไรนักด้วยเหตุการณ์วัววิด-19 ที่ยังไม่นิ่ง!
แม้กระนั้นนับเป็นเยี่ยมในอีเวนท์ที่คนประเทศไทยพึงพอใจและให้ความสำคัญ! ร่วมสืบต่อขนบธรรมเนียมอันดีเลิศ
ยุทธศักดา สุภสร ผู้ว่าการททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) กล่าวว่า เหตุการณ์ท่องเที่ยวช่วงเทศกาลวันลอยกระทงปี 2564 ซึ่งตรงกับวันนี้ (19 เดือนพฤศจิกายน) คาดมีผู้เยี่ยมเยือนคนไทยเดินทาง 551,700 คน-ครั้ง มีการใช้จ่ายสร้างรายได้เวียน 1,400 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั่วทั้งประเทศ 24% เป็นการคาดคะเนบนมาตรการการแบ่งระดับพื้นที่ตามเหตุการณ์และปริมาณคนไทยที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส หรือคนที่ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนก้าเข็มแรก โดยอ้างอิงข้อมูลที่ได้มาจากศูนย์บริหารเหตุการณ์วัววิด-19 (ศบค.) ช่วงวันที่ 15 เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
“การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยในช่วงวันลอยกระทงปีนี้น่าจะดียิ่งขึ้นกว่าปีให้หลัง แม้กระนั้นอาจไม่ครึกครื้นเท่าไรนักเมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนกำเนิดวิกฤติวัววิด-19 เนื่องจากว่ายังอยู่ในช่วงของการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของวัววิด ซึ่งแต่ละพื้นที่สามารถจัดงานกิจกรรมลอยกระทงตามขนบธรรมเนียมได้ เพื่อสงวน สืบต่อ และส่งเสริมขนบธรรมเนียมอันทรงคุณค่า ภายใต้วิธีการป้องกันการได้รับเชื้อแบบ Universal Prevention กับงดการจำหน่ายและจุดพลุ เล่นดอกไม้ไฟหรือดอกไม้เพลิง”
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์การแพร่ระบาดที่ยังไม่หยุดนิ่ง นำมาซึ่งการทำให้คนไทยจำนวนมากยังคงหนักใจ กลัวการได้รับเชื้อวัววิด-19 สอดคล้องกับผลของการสำรวจข้อคิดเห็นของประชาชนประมือณีเทศกาลลอยกระทงในยุควัววิด-19 ของสวนดุสิตโพล ช่วงวันที่ 6-12 เดือนพฤศจิกายน พบว่าคนไทยจำนวนมาก 60.04% หนักใจเรื่องวัววิด กลัวกำเนิดคลัสเตอร์ใหม่ 52.29% คิดว่าเป็นการสงวนวัฒนธรรมไทย ตกทอดขนบธรรมเนียมอันดีเลิศ และ 50% คิดว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
ดังนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การเกื้อหนุนและโฆษณาการจัดงาน “เทศกาลสีสันที่สายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2564” ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพ โดยยึดหลักวิถีปกติใหม่ (นิวนอร์มอล) ภายใต้วิธีการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ลดระยะเวลาการจัดงานและกิจกรรมที่เสี่ยงมีการแพร่ระบาด ซึ่ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเกื้อหนุน 2 งาน “ICONSIAM A Magical Loy Krathong Upon The Chao Phraya River น่าพิศวงเทศกาลลอยกระทงบนแม่น้ำเจ้าพระยา” และ “River Festival 2021 สายน้ำที่วัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 7”
ยิ่งกว่านั้น พบว่า คนไทยเล็กน้อยเลือกที่จะ “ลอยกระทงออนไลน์” โดย 33.50% พึงพอใจลอยกระทงออนไลน์ เนื่องจากว่าหนักใจกับเหตุการณ์วัววิด แม้กระนั้นคนไทยบางกลุ่มพึงพอใจร่วมกิจกรรมงานลอยกระทง ซึ่งผลจากกูเกิลเทรนด์ส (Google Trends) ช่วง 7 วันระหว่างวันที่ 9-16 เดือนพฤศจิกายน คำว่า “ลอยกระทงที่ใดดี” มีปริมาณการค้นหาสูงมากขึ้น พบว่า 5 อันดับของผู้ที่ค้นหา เป็นคนกรุงเทวดาฯ บริเวณรอบๆ (จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครปฐม) และชลบุรี จำนวนมากค้นหาสถานที่จัดงานในจังหวัดของตัวเอง และจังหวัดใกล้ๆอย่างจังหวัดกรุงเทพ จังหวัดนนทบุรี พัทยา (ชลบุรี) ทำให้คาดว่าคนที่ร่วมกิจกรรมน่าจะเป็นคนภายในพื้นที่มากกว่า ดังนี้การจัดงานในจังหวัดกรุงเทพ คาดมีคนไทย 26,800 คน-ครั้ง มีการใช้จ่ายสร้างรายได้เวียน 91 ล้านบาท
ตอนที่พื้นที่เอกลักษณ์ของเทศกาลลอยกระทงและพื้นที่ไฮไลท์ของคนไทย 4 พื้นที่ อาทิเช่น เชียงใหม่ ตาก จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดอยุธยา แม้บางพื้นที่ยังคงเจอการแพร่ระบาด แม้กระนั้นสามารถจัดงานกิจกรรมได้โดยอยู่ภายใต้วิธีการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ลดระยะเวลาการจัดงาน จำกัดปริมาณผู้เข้าร่วมงานในแต่ละรอบ และงดกิจกรรมที่เสี่ยงมีการแพร่ระบาด ประกอบกับการจัดงานทั้ง 4 พื้นที่เป็นที่รู้จักอย่างมากมายของนักเดินทาง และเป็นวันศุกร์ซึ่งชิดกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จึงคาดว่าบรรยากาศการเดินทางเข้าพื้นที่ค่อนข้างครึกครื้นกว่าพื้นที่อื่นๆโดยมีปริมาณคนไทยเดินทางเข้าพื้นที่ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้ว 83,000 คน-ครั้ง มีการใช้จ่ายสร้างรายได้เวียน 440 ล้านบาท
ทางด้าน “ไอคอนไทย” แลนด์มาร์คระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมด้วย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ สภาหอการค้าไทย สโมสรเรือไทย และสโมสรการค้าขายธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา ระบุถึงงาน “ICONSIAM A Magical Loy Krathong Upon The Chao Phraya River น่าพิศวงเทศกาลลอยกระทงบนแม่น้ำเจ้าพระยา” เปิดพื้นที่รอบๆริเวอร์พาร์คให้ประชาชนร่วมลอยกระทง ภายใต้มาตรการ Covid-Free Setting และ มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้รับบริการ
พร้อมให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเลือกสรรกระทงใบตอง กระทงกาบกล้วย และกระทงที่สร้างจากวัสดุธรรมชาติมาให้ทุกคนได้ร่วมสืบต่อขนบธรรมเนียมและดำรงรักษาแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างยั่งยืน โดยพรีเซนเทชั่นค่าความเป็นเอกราชยผ่านประเพณีลอยกระทง 5 พื้นที่เอกลักษณ์ อาทิเช่น เชียงใหม่ จังหวัดสุโขทัย ตาก สมุทรสงคราม และร้อยเอ็ด มาจัดโชว์และตกแต่งพื้นที่ให้นักเดินทางร่วมสัมผัส วัฒนธรรมของประเพณีลอยกระทงในแต่ละจังหวัด อาทิ ขนบธรรมเนียมยี่เป็งเชียงใหม่ ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประเพณีลอยกระทงสายไหลไฟ ๑๐๐๐ ดวง เป็นต้น