อาจเกิดขึ้นจากปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่า สำหรับ “พรรคเพื่อไทยก็คือขวา” หรือ เป็นของขวา ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมาสังคมก็เข้าใจแล้วก็มองอย่างงั้นมาตั้งนานแล้ว นานตลอดมาตั้งแต่ในสมัยริเริ่มตั้งขึ้นพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2544 เป็นต้นมา โดยเหตุนั้นเมื่อกล่าวถึงพรรคเพื่อไทย ก็ย่อมเชื่อมโยงไปถึง นายขวา ชินการปฏิบัติ แล้วก็ครอบครัว ลักษณะจึงถูกคิดว่าไม่ได้ต่างอะไรจาก “ธุรกิจการเมือง” ที่พวกเขาเป็นเจ้าของอะไรราวๆนั้น
แล้วก็ทุกคราวเมื่อถึงวาระทางการเมืองที่สำคัญ อาทิเช่น ไม่ว่าจะเป็นการลงคะแนนเสียง หรือมีการเปลี่ยนก็จะได้เห็นการเคลื่อนไหวแบบมีความนัยสำคัญออกมาอยู่เป็นประจำ ทั้งจากนายขวา ชินการปฏิบัติ แล้วก็คนในครอบครัวบางคน แล้วก็ตอนนี้ก็อย่างเดียวกันเมื่อใกล้ถึงวาระการเลือกตั้งใหม่ รวมไปถึงบรรยากาศการเมืองที่เริ่มงวดเข้ามาก็จะได้เห็นการเคลื่อนไหวของเขาผ่านหนทางโซเชียลฯ ถี่มากขึ้น
อย่างไรก็แล้วแต่ สิ่งที่สังคมแล้วก็คอการเมืองกำลังจับตาดูกันก็คือจะมีการเปลี่ยนด้านในพรรคเพื่อไทยอย่างไรบ้าง โดยยิ่งไปกว่านั้นตัวหัวหน้าพรรค แล้วก็คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งพรรคเพื่อไทยกำลังจะจัดประชุมใหญ่ที่จังหวัดขอนแก่นในสิ้นเดือนนี้
แม้ว่าในปัจจุบัน พรรคเพื่อไทยมีหัวหน้าพรรคเป็น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แล้วก็เป็นผู้นำฝ่ายค้านในที่ประชุมผู้แทนฯ แต่ว่าก็รับทราบกันดีว่า เขาเป็นเพียงผู้นำ “ขัดตาทัพ” เท่านั้น ไม่ใช่ตัวจริง โดยยิ่งไปกว่านั้นในสนามลงคะแนนเสียงที่จะเกิดขึ้นครั้งหน้า เพราะด้วยวัยที่ขึ้นเลขแปดแล้ว ทั้งยังก่อนหน้าที่ผ่านมาเมื่อพินิจจากบทบาททางการเมืองก็จำต้องยอมรับความจริงกันแล้วว่าเป็นอย่างไร
ก่อนหน้าที่ผ่านมาได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของนายขวา ชินการปฏิบัติ แม้ว่าเนื้อหาโดยมากจะออกมาในรูปแบบการจู่โจม ดิสเครดิต หรือ “มีค่าเพียงน้อยนิด”ฝั่งตรงข้าม ซึ่งก็ย่อมซึ่งก็คือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯแล้วก็รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แล้วก็ล่าสุดรวมไปถึงกลุ่ม “สามเปรียญ”กับเรียกร้องให้วางมือ เพื่อเปิดช่องให้คนรุ่นใหม่เข้ามา โดยอ้างว่า “หมดสมัย” ไปแล้ว
เมื่อกล่าวถึงคนรุ่นใหม่แล้วก็ประกอบกับการเคลื่อนไหว “บางสิ่ง” ก่อนหน้านี้ที่เป็นกระแสข่าวสอดคล้องกันทำให้ “คนรุ่นใหม่” ที่นายขวา ชินการปฏิบัติ ซึ่งก็คือก็น่าจะเป็น “คนในครอบครัว” ของเขาไหม รวมไปถึง “คนใกล้ชิด” กับครอบครัวของเขา ซึ่งผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมองไปที่ “ลูกเขย”หมายถึงนายณัฐวงศ์ คุณามือวงศ์ ผัวของนางพินทองทา ชินการปฏิบัติ บุตรสาวคนโต ที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่ามีความอุตสาหะสนับสนุนให้เข้ามามีบทบาทในพรรคเพื่อไทยในตอนสองสามปีกลาย เพียงแต่ว่าเงียบไป บางข่าวพูดว่าภรรยาไม่ต้องการให้ไปสู่การเมือง ทั้งยังในตอนก่อนหน้านั้นไม่ว่าจะเป็น “ตอนวัย” ที่ยังดูละอ่อน จึงคงจะไม่พร้อมจริงๆก็ได้ แต่ว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนไปในวันนี้ที่ลูกเขยมีความพร้อมเพรียงกว่าเดิม พินิจได้จากได้รับมอบหมายให้ดูแลธุรกิจของครอบครัวก็ย่อมแลเห็นถึงความน่าจะเป็นไปได้มากกว่าเดิม
เวลาเดียวกันยังสอดคล้องกับรายงานข่าวการเข้ามา “กระชับบทบาท” ด้านในพรรคเพื่อไทยของ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์ อดีตภรรยาของนายขวา ชินการปฏิบัติ ที่บังเอิญมีคนเจตนา “ปล่อยคลิป” ที่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรภาคอีสานคนหนึ่งเสนอให้ คุณหญิงพจมาน เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือมานำพรรคอย่างเต็มตัว ระหว่างวีดิโอคอลกับนายขวา ชินการปฏิบัติ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแค่ออกตัวว่าคุณหญิงรังเกียจการเมือง (หน้าฉาก) บอกไม่เก่ง แต่ว่าถนัดด้านการสัมมนา (อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง) ราวๆนั้น
แน่ๆว่าคลิปดังที่กล่าวผ่านมาแล้วแม้ว่าจะถูกลบทิ้งไปแล้วด้วยเหตุผลหวั่นหวาดว่าจะมีความผิดโดยชอบด้วยกฎหมายพรรคการเมืองที่ให้บุคคลภายนอกมาครอบครองพรรค มีความเสี่ยงต่อการถูกยุบพรรค แล้วก็ถูกตัดสิทธิ์นับสิบปีก็ตาม แต่ว่าอีกด้าหนึ่งมันสะท้อนให้มีความเห็นว่า พรรคเพื่อไทย “ไม่มีทางก้าวข้ามพ้นนายขวาแล้วก็ครอบครัว”
เมื่อพินิจจากคำพูดดังที่กล่าวผ่านมาแล้วที่ นายขวา คุยโตว่าลงคะแนนเสียงตอนนี้พรรคเพื่อไทยจึงควรเอาชนะแบบ “มากกว่าแลนด์สไลด์” มันก็เช่นเดียวกันส่งสัญญาณชัดเจนว่า เขาจำต้องเข้ามามีบทบาทอย่างมากอีกรอบไหม โดยยิ่งไปกว่านั้นจำต้องจับตาความเคลื่อนไหวในพรรคเพื่อไทย ว่าคนไหนกันแน่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แล้วก็คนรุ่นใหม่ที่ว่าจะเป็นคนในครอบครัวของเขาไหม
เวลาเดียวกันสำหรับพรรคเพื่อไทยไม่ว่าอดีต ปัจจุบันนี้แล้วก็ตลอดไปถึงอนาคต เมื่อพินิจจากการเปลี่ยนแปลงก่อนหน้าที่ผ่านมาไม่มีทางก้าวพ้นขวา ชินการปฏิบัติ แล้วก็เขาก็ไม่ยินยอมให้ก้าวข้ามแน่ๆ เพราะนี่เป็นหัวใจที่ส่งผลต่อชะตากรรมของเขาเช่นเดียวกัน !!