“หน้ากากอนามัย” เลือกซื้อยังไง ให้ได้ประสิทธิภาพ มาตรฐาน

เวลานี้ เว้นแต่วัคซีนโควิด-19 ที่จำต้องเร่งฉีดแล้ว “หน้ากากอนามัย” ยังถือเป็นอาวุธสำคัญสำหรับในการคุ้มครองปกป้องโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันนี้ มีหลายแบบอย่าง หลายแบรนด์ในท้องตลาด แล้วพวกเราจะทราบได้อย่างไรว่ายี่ห้อไหนได้มาตรฐาน และมีคุณภาพ

วันนี้ (30 พ.ย. 64) สภาองค์กรของผู้ซื้อ และโครงข่ายนักวิชาการเพื่อผู้ซื้อ แถลงผลการทดลอง “หน้ากากอนามัย” จำพวกใช้ครั้งเดียว โดยมีการตรวจตราประสิทธิภาพจากการซื้อหน้ากากอนามัย 60 แบรนด์ เก็บข้อมูลระหว่าง 16 เดือนสิงหาคม-3 เดือนตุลาคม64 ส่งไปตรวจที่ห้องทดลองที่ได้มาตรฐาน ต่อจากนั้น มีการจัดสัมมนากับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวทั้งหมดทั้งปวง เพื่อรายงานผลที่เจอการทดสอบไม่ว่าจะสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) อย. (อย.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเกี่ยวกับการควบคุมดูแลหน้ากากอนามัย

ตรวจตรา หน้ากากอนามัย 60 แบรนด์

“ไพบูลย์ ตอนทอง” กรรมการแผนการสภาองค์กรของผู้ซื้อ ผู้ที่มีความชำนาญด้านสินค้าและบริการ เปิดเผยผลการทดลองหน้ากากอนามัย 60 แบรนด์ โดยระบุว่า ความยากที่สุดเป็น หลายแบรนด์เป็นภาษาต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น ญี่ปุ่น ประเทศเกาหลี และไม่บอกว่าเกรดไหน ทำให้ยากต่อการจัดจำแนกประเภทให้ห้องทดลองทดลองตามมาตรฐาน
ทั้งนี้ การทดสอบ แบ่งหน้ากากอนามัยออกเป็น หน้ากากอนามัยใช้งานทั่วไป 14 แบรนด์ , หน้ากากอนามัยที่ใช้งานด้านการแพทย์ทั่วไป (Medical Grade) และการใช้งานด้านศัลยกรรม (Surgical Grade) 27 แบรนด์ และหน้ากากกรุ๊ปเครื่องไม้เครื่องมือคุ้มครองปกป้องฟุตบาทหายใจตามมาตรฐาน N95 ปริมาณ 19 แบรนด์ โดยส่งไปทดลองห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นห้องทดลองเพื่อขอรับมาตรฐานอุตสาหกรรมการทดสอบ 2 เรื่อง
ทั้งนี้ มีการทดลอง 2 เรื่องเป็นประสิทธิภาพการกรองอนุภาคขนาดเล็ก (Filter Efficiency) ดังเช่นว่า ขนาด 0.1 ไมครอน สำหรับหน้ากากอนามัยทั่วไป หน้ากากอนามัยทางด้านการแพทย์และด้านศัลยกรรม ส่วนอนุภาค 0.3 ไมครอน ทดลองในหน้ากากอนามัยกรุ๊ป N95 และ “ทดลองความรู้ความเข้าใจสำหรับในการซึมผ่านของอากาศ” บอกถึงการต้านการหายใจมากน้อยแค่ไหน โดยผลการทดลอง ดังนี้

หน้ากากอนามัยระดับการคุ้มครองป้องกันใช้งานทั่วไป

• กำหนดให้จะต้องมีประสิทธิภาพการกรองอนุภาคไม่น้อยกว่าปริมาณร้อยละ 95
• จะต้องมีค่าความดัน ไม่เกิน 4.0 mm H20/Cm2
• มาตรฐาน มอก. 2424/2562
• ปริมาณ 14 แบรนด์
• ผ่านมาตรฐาน 3 แบรนด์ ดังเช่นว่า LOC , Medicare Plus และ Iris Ohyama
• ไม่ผ่านมาตรฐานกว่า 11 แบรนด์

หน้ากากอนามัยระดับการคุ้มครองป้องกันการใช้งานด้านการแพทย์ทั่วไปและการใช้งานด้านศัลยกรรม

• กำหนดให้จะต้องมีประสิทธิภาพการกรองอนุภาคไม่น้อยกว่า ปริมาณร้อยละ98
• จะต้องมีค่าความดัน ไม่เกิน 5.0 mm H20/Cm2
• มาตรฐาน มอก. 2424/2562
• ทดลอง 27 แบรนด์
• ผ่าน 3 แบรนด์ ดังเช่นว่า Double A Care, THC และ Nam Anh
• ไม่ผ่านมาตรฐาน 24 แบรนด์

หน้ากากอนามัยระดับการคุ้มครองป้องกัน N95

• กำหนดให้จะต้องมีประสิทธิภาพการกรองอนุภาคไม่น้อยกว่า ปริมาณร้อยละ95
• จะต้องมีค่าความดัน ไม่เกิน 3.5 mm H20/Cm2
• ตามมาตรฐาน มอก. 2480/2562
• ทดลองทั้งหมดทั้งปวง 19 แบรนด์
• ผ่านมาตรฐาน 13 แบรนด์ ดังเช่นว่า Minicare , ยี่ห้องู , One care , 3M , Welcare Black Edition , Ease Mask Zero , Phamatex , ไคเทคิการ์ด รุ่นซาวายากะ , Ease Mask Zero (Alco) , KSG (ซองเขียวอ่อน), Unicharm , Watsons และ Link Care
• ไม่ผ่านมาตรฐาน 6 แบรนด์

พิจารณาอย่างไรว่า “หน้ากากอนามัย” ได้มาตรฐาน

“สารี ยอดสมหวัง” เลขาธิการสภาองค์กรของผู้ซื้อ บอกว่า ข้อสังเกตสำหรับในการซื้อหน้ากากอนามัยทางด้านการแพทย์ อย่างต่ำจะต้องมีเลขทะเบียนของ อย. พวกเรายังจำต้องพบเจอกับโควิด-19 ที่จะอยู่กับพวกเราอีกนาน และนี่เป็นเครื่องไม้เครื่องมือเบื้องต้นที่ต้อง ต้องการมองเห็นการควบคุมประสิทธิภาพที่แจ่มแจ้ง ผลการทดลองคราวนี้จะช่วยปรับผู้ซื้อมีข้อมูลที่พอเพียง และมีคุณประโยชน์สำหรับในการตกลงใจเลือกซื้อสินค้าหน้ากากอนามัยได้อย่างแม่นยำ

“เพื่อหลีกเลี่ยงสินค้าที่อาจมีผลกระทบต่อร่างกาย และ สอบ. ได้มีการจัดเวทีกับหน่วยงานและส่งต่อข้อมูลผลการทดลองรายงานต่อหน่วยงานของรัฐเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เพื่อนำไปสู่การบังคับใช้ข้อบังคับสำหรับในการควบคุมกำกับการผลิตหรือการนำเข้าหน้ากากอนามัยให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ระบุ เพื่อการคุ้มครองป้องกันผู้ซื้อ”