เช็กวันลอยกระทงปี 2564 ตรงกับวันไหน ข้างหลังนายกรัฐมนตรีไฟเขียวให้จัดกิจกรรมได้ ภายใต้ข้อจำกัด การคุ้มครองป้องกันการรับเชื้อแบบครอบจักรวาล
วันนี้ ( 31 ตุลาคม 64 )นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองพิธีกรประจำนร พูดว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์อร่อย นายกรัฐมนตรี แล้วก็ รมว.กลาโหม อนุมัติให้หน่วยงานจัดงานประเพณีลอยกระทงได้เพื่ออนุรักษ์สืบสาน แล้วก็ส่งเสริมประเพณีลอยกระทงที่ทรงคุณค่า ดังนี้ประเพณีลอยกระทงในปี 2564 ตรงกับวันที่ 19 พ.ย.
โดยการจัดกิจกรรมงานประเพณีลอยกระทงอาศัยหลักมาตรการไม่มีอันตรายสำหรับหน่วยงาน (COVID-Free Setting) แล้วก็การคุ้มครองป้องกันการรับเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) โดยมีแนวทางแล้วก็มาตรการรณรงค์ในการจัดงานประเพณีลอยกระทง ดังนี้
1.ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวเนื่องร่วมกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยแล้วก็บังคับใช้อย่างเคร่งครัด ดังเช่นว่า ห้ามปลดปล่อยโคมลอย งดเว้นเล่นพลุ พลุ ดอกไม้ไฟ รณรงค์ลอยกระทงปลอดเหล้า ฯลฯ
2.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวกับการจราจรทั้งทางบกแล้วก็ทางน้ำ วิเคราะห์ความเรียบร้อยของยานพาหนะที่จะใช้รับ-ส่งประชากรในช่วงประเพณีลอยกระทง
3.ขอความร่วมมือผู้จัดงานแล้วก็หน่วยงานที่เกี่ยวเนื่องเพิ่มวิธีการป้องกันแล้วก็ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขแล้วก็กระทรวงวัฒนธรรม โดยการควบคุมผู้มาร่วมงานไม่ให้แออัดคับแคบ สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลา กำหนดให้เว้นระยะห่างทางด้านสังคมในทุกกิจกรรม
4.ทุกสถานที่ที่จัดงานประเพณีลอยกระทงควรมีจุดคัดเลือกกรองอุณหภูมิ จัดให้มีจุดลงทะเบียนไทยชนะก่อนเข้าแล้วก็ออก จุดบริการเจลแอลกอฮอล์ จัดจุดทิ้งขยะที่มีฝาปิดมิดชิด ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสทั้งก่อนแล้วก็ข้างหลังการจัดงาน แล้วก็ทำความสะอาดห้องสุขาทุก 1-2 ชั่วโมง ถ้าด้านในงานมีการแสดงให้ทำความสะอาดก่อนแล้วก็ข้างหลังการแสดงทุกรอบ
สำหรับประเพณีลอยกระทงนั้นจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย หรือถ้าเกิดเป็นปฏิทินจันทรคติล้านนาจะตรงกับเดือนยี่ แล้วก็ถ้าเป็นปฏิทินสุริยคติจะราวพ.ย. ซึ่งเดือน 12 นี้เป็นตอนๆต้นหน้าหนาว อากาศจึงเย็นสบาย แล้วก็อยู่ในฤดูน้ำหลาก มีน้ำขึ้นเต็มฝั่ง แล้วก็เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงอีกด้วย
ประเพณีลอยกระทงนั้น ไม่มีหลักฐานกำหนดแจ่มแจ้งว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใด แม้กระนั้นเชื่อว่าขนบธรรมเนียมนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า “พิธีการจองเปรียญ” หรือ “การลอยพระประทีป” แล้วก็มีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 เอ่ยถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังที่กล่าวถึงแล้วน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน
ยิ่งกว่านั้นขนบธรรมเนียมการลอยกระทง น่าจะเป็นคติของชาติที่ประกอบกสิกรรม ซึ่งต้องมีน้ำตามสายน้ำ เพื่อขอบคุณมากพระแม่คงคา หรือเทพเจ้าที่น้ำ ทั้งยังเป็นการแสดงความเคารพขอโทษที่ได้ลงอาบ หรือปลดปล่อยสิ่งปฏิกูลลงน้ำไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม และเป็นการบูชาเทพเจ้าตลอดจนรอยรอยพระบาท พระเจดีย์จุฬามณี ฯลฯ ตามคติความเชื่อถือ โดยแท้จริงการลอยกระทงมีเป้าประสงค์ 3 ประการ เป็น
1. เพื่อขอโทษแก่พระแม่คงคา เพื่อบูชารอยรอยพระบาทแล้วก็บูชาเทพเจ้าตามคติความเชื่อถือ
2. เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้ไม่ให้สูญหายไปตามระยะเวลา
3. เพื่อทราบถึงค่าของน้ำหรือแม่น้ำลำคลอง อันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเพื่อการดำรงชีวิต